ประกันชั้น 2 ประกันรถยนต์สำหรับคนงบน้อย แต่อยากได้ความคุ้มครองเยอะ

ประกันชั้น 2

เรียกได้ว่าประกันชั้น 2 นั้นมีความคุ้มครองที่ค่อนข้างตอบโจทย์ ดูแลครบถ้วน เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการประหยัดงบในการซื้อประกันภัยรถยนต์ หากคิดว่าค่าเบี้ยประกันชั้น 1 สูงเกินไป การเลือกประกันรถยนต์ชั้น 2 ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะชำระเบี้ยประกันถูกกว่า และได้รับความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกัน โดยความคุ้มครองหลักๆ ของประกันรถยนต์ชั้น 2 คือ

  • ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก

ประกันชั้น 2 จะให้ความสำคัญกับบุคคลภายนอกและคู่กรณี ทั้งความเสียหายทางร่างกายและทรัพย์สิน หากเกิดอุบัติเหตุใดๆ ขึ้น แล้วตัวผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด ประกันจะจ่ายเงินชดเชยแก่คู่กรณีเท่านั้น

  • คุ้มครองรถยนต์จากเหตุไม่คาดคิด

กรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิดที่สร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ เช่น ไฟไหม้รถยนต์, รถยนต์สูญหาย ทางประกันชั้น 2 ก็มีวงเงินคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 ด้วยเหตุนี้ ประกันชั้น 2 จึงเหมาะกับรถยนต์ที่ต้องเปลี่ยนคนขับหลายมืออยู่เรื่อย ๆ คือไม่มีผู้ขับที่ระบุได้อย่างชัดเจน หรือรถยนต์ที่มีผู้ขับมือใหม่ เพิ่งเริ่มขับรถได้ไม่นาน เช่นผู้ขับที่อายุยังน้อย และต้องการความอุ่นใจในการใช้รถยนต์

เลือกประกันชั้น 2 ให้ถูกใจ เลือกยังไงดี?

  • ทุนเอาประกันภัยของประกันชั้น 2

จำนวนเงินทุนเอาประกันภัย หมายถึง จำนวนเงินสูงสุดที่ทางบริษัทประกันฯ จะจ่ายให้เมื่อเกิดรถยนต์คันเอาประกันภัยได้รับความเสียหายตามที่ได้ระบุเงื่อนไขเอาไว้ในกรมธรรม์ ว่าเงินจำนวนนี้เพียงพอสำหรับการดูแลรถยนต์ของคุณแล้วหรือยัง และเหมาะสมหรือไม่?

  • คนขับรถยนต์

พิจารณาพฤติกรรมของผู้ที่เป็นผู้ขับรถยนต์ว่าเป็นคนขับรถยนต์เร็วหรือไม่ มีประวัติขับรถยนต์เฉี่ยวชนหรือเกิดอุบัติเหตุถี่แค่ไหน และมีสถานภาพโสดหรือมีครอบครัวแล้ว เพราะคุณสมบัติเหล่านี้มีผลต่อการพิจารณาความคุ้มครองและเบี้ยประกันทั้งสิ้น

  • เช็กเบี้ยประกันชั้น 2

หากเจอความคุ้มครองจากประกันชั้น 2 ที่รู้สึกว่าแผนความคุ้มครองถูกใจ และเบี้ยประกันราคาสมเหตุสมผลแล้ว ต้องไม่ลืมที่คำนวณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ว่าเมื่อต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชั้น 2 แล้ว จะเหลือเงินเพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือไม่ หากคำนวณดูแล้วยังรู้สึกว่าเบี้ยสูงเกินไปและอาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินในชีวิตประจำวันไปจนถึงการใช้เงินในอนาคตด้วย ก็ขอแนะนำให้เลือกแผนความคุ้มครองอื่นที่เรียกเก็บค่าเบี้ยประกันในราคาที่ต่ำกว่า หรือลองสอบถามกับบริษัทฯ ว่ามีโปรโมชั่นอะไรน่าสนใจบ้างไหม หรือสามารถขอส่วนลดประวัติดีได้ หากไม่เคยมีประวัติอุบัติเหตุมาก่อน

แนะนำให้หาบริการเปรียบเทียบประกันชั้น 2 แบบออนไลน์ เพื่อดูความเหมาะสม และแผนความคุ้มครองที่ถูกใจที่สุด การทำแบบนี้จะช่วยลดขั้นตอนยุ่งยากลง และประหยัดเวลามากขึ้นอีกด้วย